แนะ 5 ของใช้จำเป็นทำบุญเข้าพรรษาให้ได้บุญเต็มที่ ไฟฉาย - ผ้าอาบน้ำฝน - เทียนบูชาพระ- ยา สำคัญที่สุด ชี้พระสงฆ์ตามต่างจังหวัดลำบากกว่าพระในเมืองพุทธศาสนิกชนควรมุ่งหน้าไปทำบุญ
เทศกาล “เข้าพรรษา” ใกล้เวียนมาถึงแล้ว แต่เชื่อว่าบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วไปจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้ว่าจะทำบุญอย่างไรที่จะได้บุญสูงสุด “ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์ “มีเคล็ดลับดีๆที่ใครได้ทำตามแล้วรับรองได้บุญมหาศาลเลยทีเดียว
แนะ 5 ของใช้จำเป็น
พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม บอกว่า การเข้าพรรษามีกำหนดตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำเดือน 8 จนถึงกลางเดือน 11 เป็นระยะเวลา 3 เดือนซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน โดยที่ภิกษุสงฆ์จะอยู่ประจำวัด ห้ามออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
การทำบุญเข้าพรรษา ให้ถูกหลักพระพุทธศาสนานั้นไม่ใช่เรื่องยากและทำแล้วยังได้บุญมหาศาลโดยผู้ที่จะทำบุญควรจะเน้นไปทำบุญตามวัดต่างจังหวัดเพราะพระสงฆ์ตามต่างจังหวัดนั้นจะขาดแคลนของอุปโภค บริโภคมากกว่าพระที่จำวัดในเมือง โดยผู้ที่ต้องการทำบุญควรจะนำของใช้จำเป็น 4 อย่างไปถวายท่าน ประกอบไปด้วย
1.ไฟฉายอย่างดี พร้อมถ่านสำรองเพราะช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงหน้าฝนท่านจะได้ใช้ไฟฉายสำรวจสภาพวัด สัตว์ร้าย เดินทางไกลหรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
2.ผ้าอาบน้ำฝน รูปละสองผืน และต้องเป็นผ้าฝ้ายขนาดใหญ่ที่สามารถใช้สงฆ์น้ำได้ และเป็นผ้าเช็ดตัวได้ซึ่งปัจจุบันพระสงฆ์ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าขนหนูแทนแต่ตามความจริงแล้วการใช้ผ้าขนหนูนั้นไม่ถุกพระวินัยของสงฆ์
3.เทียนบูชาพระ ขนาด 8 นิ้ว พร้อมไฟแช็คแทนการใช้เทียนพรรษาซึ่งมีขนาดใหญ่ เพื่อท่านจะใช้จุดบูชาพระประธานในโบสถ์
4.ยาแก้แพ้อากาศอย่างดีพร้อมยาลดไข้ เพราะช่วงนี้พระสงฆ์จะเกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายเพราะเป็นช่วงหน้าฝน
5.อาหารแห้งและอาหารสำเร็จรูปเพราะหน้าฝนบางครั้งฝนตกหนักท่านอาจจะไปออกบิณฑบาตรไม่ได้ก็สามารถใช้ลูกศิษย์นำอาหารแห้งมาปรุงฉันได้ทันที
“ทำบุญเข้าพรรษาแค่ 5 ข้อเท่านี้ก็ได้บุญมหาศาลแล้วเพราะท่านได้ใช้ของที่เราถวายได้ตลอดพรรษาส่วนปัจจัยนั้นก็อย่าลืมถวายท่านตามกำลังศรัทธาเพื่อใช้จ่ายเป็นสมณะบริโภค แต่ถ้าเป็นพระธรรมยุตก็ถวายเป็นปาวรณาบัตร ส่วนปัจจัยก็มอบให้ลูกศิษย์ท่านไว้ เท่านี้เราก็ได้เชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีแล้ว”
บุญ 10 ข้อ ทำได้ตลอดเวลา
เจ้าคุณพิพิธ อธิบายต่อว่า การทำบุญนั้นเราทำบุญได้ทุกโอกาสและตลอดเวลา ซึ่งอาตมาก็ไม่อยากจะให้ชาวพุทธเน้นทำบุญเฉพาะเทศกาลแต่อยากให้ชาวพุทธทำบุญทุกวัน โดยวิธีการทำบุญที่เป็นการขูดเกลา ขจัดความเห็นแก่ตัวให้เบาบางจางหายถึงกับหมดไปในที่สุดมี 10ประการคือ
1.การให้ทาน ประกอบด้วย ให้วัตถุสิ่งของ ให้ธรรมะ และให้อภัย สังเกตใจทุกครั้งที่มีโอกาสให้ทานว่า ให้ด้วยความเต็มใจ เปี่ยมสุขหรือมีสิ่งใดตกค้างขัดขวางอยู่บ้าง ก็สลัดออกไป
2.การสมาทานศีล คือความตั้งใจที่จะงดเว้นจากการกระทำที่เบียดเบียนตนเอง และเบียดเบียนผู้อื่น เพราะเห็นโทษของการกระทำนั้นๆและเต็มใจสลัดขัดเกลาอย่างเต็มสติกำลัง
3.การภาวนา คือการเฝ้าระวังรักษาใจมิให้เผลอไผลสร้างตัวตนขึ้นมาก่อทุกข์ เพราะเกิดความรู้สึกตัวตนครั้งหนึ่ง กระบวนการเกิดทุกข์ยกโขยงมาทั้งขบวน เมื่อใจไม่ต้องแบกตัวตน ก็กลายเป็นใจเบา หรือเบาใจนี้แหละคือใจในขณะที่ว่างจากตัวตน
4.ความอ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงความอ่อนโยนหรือ อ่อนน้อมถ่อมตนที่แท้คือวิธีการลดตัวตนชนิดหนึ่ง การทำบุญที่ง่ายที่สุด ได้ผลมากไม่แพ้วิธีอื่นๆก็คือการอ่อน้อมถ่อมตนนี้เอง
5.เต็มใจช่วยเหลือผู้อื่น งานที่เรียกกันว่างานอาสาสมัคร ที่คนทำกันอยู่โดยทั่วไป หรือ การรวมกลุ่มกันบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม ชุมชนใดๆโดยไม่รับสิ่งใดๆตอบแทน
6.การแสดงธรรม การที่พระสงฆ์แสดงธรรมก็ดี การที่ใครๆแม้มิใช่เป็นพระสงฆ์แต่มีเจตน์จำนง มีความปรารถนาดีในการบอกทางชีวิตดีๆให้แก่เพื่อนผู้ต่างการชี้ทางล้วนเป็น การแสดงธรรม
7.การฟังธรรม การตั้งใจฟังธรรมจากพระสงฆ์ที่แสดงธรรม การฟังธรรมจากสื่อธรรม เพื่อเพิ่มความรู้ทางชีวิตที่ถูกต้อง ล้วนเป็นการทำบุญ ที่จะก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขทั้งนั้น
8.การมอบความดีให้แก่กันและกัน เมื่อได้สร้างความดีอย่างใดแล้ว ตั้งใจเผื่อแผ่ความดีนั้นไปให้แก่ผู้อื่นด้วยการตั้งความปรารถนาดีแก่บุคคล ทั้งที่เป็นที่รักและที่เคยเกลียดชัง ให้สิ่งเหล่านั้หายขาดเลิกแล้วต่อกัน วางใจเป็นกลาง
9.การพลอยยินดีกับผู้อื่น เมื่อเห็นว่าพวกเขาทำความดี เป็นการสร้างกำลังใจให้แก่สังคม สลายความอิจฉาจากใจ ไม่ตกนรก นั่งนอนเป็นสุข แค่นั้นก็เห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้า
10.ทำความเห็นให้ตรง เมื่อใดใช้สติพิจารณา กิจกรรมที่ผ่านมาในชีวิตแล้ว ทบทวนว่า สิ่งใดดีควรจะเพิ่มเติม และหากพบว่าสิ่งใดไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์มีแต่โทษเจือปน ต้องตัดใจขจัดออกไปอย่างตรงไปตรงมาไม่ปล่อยให้ค้างคาชีวิต
“เมื่อได้ทราบวิธีการทำบุญที่ทำแล้วได้บุญและยังลงทุนน้อยใครมีความพร้อมหรือสะดวกแบบไหนก็ทำไปแบบนั้น การทำบุญถ้าทำด้วยความจริงใจ ตั้งใจ เต็มใจ ก็ล้วนเป็นบุญทั้งนั้น ทำบุญมากเท่าไรความสุขก็เกิดขึ้นมากเท่านั้น ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสะสมบุญนำสุขมาให้”เจ้าคุณพิพิธกล่าว