ในยุคสมัยที่วัตถุนิยมเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการทำความดีต้องมีเงินทองมากมาย หรือต้องมีสิ่งของราคาแพงมาถวายบูชา แต่ความจริงแล้ว หัวใจสำคัญของความดีไม่ได้อยู่ที่วัตถุภายนอก หากแต่อยู่ที่จิตใจอันบริสุทธิ์ของเรานั่นเอง
ความดีในทางพุทธศาสนาไม่ได้วัดกันด้วยปริมาณของสิ่งของที่เราให้ หรือมูลค่าทางเงินของการกุศล แต่วัดกันด้วยเจตนาและจิตใจที่เราใส่ลงไปในการกระทำนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ" ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราเรียกเจตนาว่ากรรม
การให้ทานอันน้อยนิดด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตา มีค่ายิ่งกว่าการให้ทานอันมากมายด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งหรือการคำนวณผลตอบแทน นี่คือหลักการพื้นฐานที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้
ความดีในชีวิตประจำวัน
ความดีที่แท้จริงสามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องพึ่งพาวัตถุสิ่งของ เช่น:
การให้กำลังใจ เมื่อเพื่อนร่วมงานท้อแท้ การให้คำปลอบใจด้วยใจจริงมีค่ายิ่งกว่าของขวัญราคาแพง
การให้เวลา การเข้าไปช่วยเหลือผู้สูงอายุข้ามถนน หรือช่วยแบกของหนักให้เพื่อนบ้าน เป็นการให้ที่มีค่ามากกว่าเงินทอง
การให้อภัย การปล่อยวางความโกรธแค้นและให้อภัยผู้ที่ทำร้ายเรา เป็นการให้ที่ประเสริฐที่สุด
การมีจิตเมตตา แม้แต่การยิ้มให้กับคนแปลกหน้าด้วยใจจริง ก็เป็นการให้ทานอันมีค่า
เมื่อเราเน้นไปที่วัตถุสิ่งของมากเกินไป จะเกิดอันตรายหลายประการ:
ความเย่อหยิ่ง คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่นเพราะให้ของมีค่ามากกว่า
การแข่งขัน พยายามให้ของที่มีราคาแพงกว่าคนอื่นเพื่อแสดงฐานะ
ความท้อแท้ คนที่มีฐานะไม่ดีอาจคิดว่าตนไม่สามารถทำความดีได้
การขาดสมาธิ จิตใจไม่สงบเพราะยึดติดกับสิ่งภายนอก
เพื่อให้เข้าใจหลักการนี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เราควรปฏิบัติ:
การทำสมาธิ นั่งสมาธิเพื่อทำจิตใจให้สงบและเข้าใจตนเอง
การปฏิบัติเมตตาภาวนา ส่งเมตตาจิตไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย
การศึกษาธรรม อ่านพระไตรปิฎกและหนังสือธรรมะเพื่อเข้าใจหลักคำสอน
การฝึกจิตให้ปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับสิ่งภายนอกและผลตอบแทน
เมื่อเรามีจิตใจที่ดีงาม จะเกิดผลดีหลายประการ:
ความสุขภายใน จิตใจเบิกบานและมีความสุขที่แท้จริง
ความสัมพันธ์ที่ดี คนรอบข้างรู้สึกอบอุ่นและเข้ามาใกล้ชิด
การเป็นแบบอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นทำความดีตาม
ความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ จิตใจเจริญรุ่งเรืองและใกล้ชิดกับธรรม
ดังนั้น เราทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะร่ำรวยหรือยากจน ล้วนสามารถทำความดีได้เท่าเทียมกัน เพราะความดีอยู่ที่จิตใจ ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ การพัฒนาจิตใจให้บริสุทธิ์และเต็มเปี่ยมด้วยเมตตา คือทางสู่ความสุขที่แท้จริงและการบรรลุธรรม
"ยิ่งให้มาก ยิ่งได้มาก แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ให้ด้วยใจที่บริสุทธิ์"